เคล็ดลับการเอาชนะเกมส์แบล็กแจ็ก โกยกำไรแบบเน้น ๆ
เกมส์แบล็กแจ็ก (Blackjack) หรือเกมส์ไพ่ 21 ถือเป็นอีกหนึ่งเกมส์คาสิโนออนไลน์ยอดฮิต เนื่องจากรูปแบบและวิธีการเล่นที่มีความท้าทาย เป็นที่สนุนสนานของนักพนัน ซึ่งการเล่นแบล็กแจ็กผ่านเว็บคาสิโนออนไลน์ไม่ได้แตกต่างจากการเล่นแบบดั้งเดิมในบ่อนคาสิโนเท่าไรนัก ทั้งกฎ กติกาต่าง ๆ และวิธีการเล่นก็มีความคล้ายคลึงกันมาก เพียงแต่การเล่นแบล็กแจ็กแบบออนไลน์จะเล่นผ่านโปรแกรมเท่านั้น หากนักพนันคนไหนที่สนใจการเล่นแบล็กแจ็กและอยากรู้สูตร เทคนิคต่าง ๆ ในการเล่นเพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะเดิมพัน เราก็มีเคล็ดลับในการเอาชนะในเกมส์แบล็กแจ็กออนไลน์มาฝากกัน รับประกันได้เลยว่าเมื่อนำไปใช้แล้วจะสามารถทำกำไรได้มากกว่าเดิมแน่นอน
เกมส์แบล็กแจ็กคืออะไร
แบล็กแจ๊ก (Blackjack) เป็นเกมส์ไพ่ที่มีวิธีการเล่นง่าย ทำให้ผู้เล่นมีความสนุกสนานในการลงเดิมพัน โดยในเกมส์จะมีการใช้ไพ่ทั้งหมด 52 ใบ คือหนึ่งสำรับ หรืออาจจะใช้มากกว่าหนึ่งสำรับก็ได้ ไพ่แบล็กแจ็กจะวัดผลการแพ้ชนะโดยการมีแต้มหน้าไพ่ให้ได้ 21 แต้ม หรือรวมกันให้ใกล้เคียง 21 แต้มมากที่สุด แต่ถ้ามีไพ่เกิน 21 แต้ม ก็จะแพ้ทันที ซึ่งเกมส์นี้เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในคาสิโนทั่วโลก และในปัจจุบันนอกจากเข้าไปเล่นในคาสิโนแล้ว เกมส์ไพ่แบล็กแจ็กก็มีแบบออนไลน์ให้เล่นตามเว็บคาสิโนออนไลน์ต่าง ๆ อีกด้วย
ไพ่แบล็กแจ็กมีประวัติความเป็นมาอย่างไร
ต้นกำเนิดของไพ่แบล็กแจ็กที่แท้จริงยังไม่รู้แน่ชัด แต่เชื่อกันว่ามีการเล่นเกมส์ไพ่นี้ครั้งแรกก่อนปี 1700 ในเหมืองแร่ทางตะวันตกของอเมริกา โดยเกมส์ไพ่แบล็กแจ็กถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เกมส์ไพ่ 21 เพราะวิธีการเล่นที่ต้องบวกแต้มไพ่ที่อยู่ในมือให้ได้ 21 แต้ม หรือให้ใกล้เคียงกับ 21 แต้มมากที่สุด ก็จะได้รับเงินผลตอบแทนเท่าต่อเท่า ยกเว้นว่าจะได้ไพ่เป็นแบล็กแจ้กและ A หรือดอกจิก ผลตอบแทนจะได้ในอัตรา 10 ต่อ 1 โดยในปัจจุบันการเล่นไพ่แบล็กแจ็กถ้ารวมไพ่ในมือสองใบแล้วได้แต้มเท่ากับ 21 จะเรียกว่าแบล็กแจ็ก ก็จะจ่ายผลตอบแทนในอัตรา 3 ต่อ 2 ส่วนการรวมแต้ม 21 แต้ม จากไพ่มากกว่าสามใบและชนะเจ้ามือก็จะจ่ายผลตอบแทนเท่าต่อเท่า โดยในแถบเอเชียเกมส์ไพ่แบล็กแจ็กได้รับความนิยมค่อนข้างมาก รองจากบาคาร่าและโป๊กเกอร์ ยิ่งในเว็บคาสิโนออนไลน์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเกมส์แบล็กแจ็กก็กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนเกมส์การพนันอื่น ๆ เช่นกัน
วิธีการนับแต้มไพ่แบล็กแจ็ก
- หน้าไพ่เป็น A จะมีค่า 1 แต้ม หรือ 11 แต้ม ขึ้นอยู่กับหน้าไพ่หรือสถานการณ์ โดยผู้เล่นสามารถเลือกได้เอง เช่น เมื่อมีไพ่ A กับ 9 ในมือ จะให้ A เท่ากับ 11 แต้ม ก็จะรวมกันได้ 20 แต้ม ซึ่งจะใกล้เคียงกับ 21 แต้ม หรือ ได้ไพ่ 9, 5, 4 และ A ก็เลือกให้ไพ่ A แทน 1 แต้ม ก็จะรวมกันได้ 21 แต้มพอดี เป็นต้น
- ไพ่ J, Q, K มีค่าเท่ากับ 10 แต้ม
- ไพ่ที่เป็นตัวเลข คือ 2 – 10 จะมีคะแนนตามหน้าไพ่
เคล็ดลับในการเอาชนะเกมส์แบล็กแจ็ก
เรียนรู้กฎและวิธีการจ่ายเงินอย่างละเอียด
พื้นฐานที่ต้องรู้หากอยากเอาชนะเกมส์แบล็กแจ็กก็คือ จะต้องรู้กฎ กติกา และวิธีการจ่ายเงินก่อน เพราะจะทำให้ผู้เล่นสามารถคำนวณการลงทุนและกำไรที่จะได้ ซึ่งในคาสิโนออนไลน์แต่ละที่หรือแต่ละประเทศก็จะมีกฎแตกต่างกันไป ดังนั้น ผู้เล่นก็ต้องรู้ว่ากฎ กติกาของแต่ละที่เป็นอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดการทำผิดกฎกติกาในการเล่น
เรียนรู้การจั่วไพ่และหยุดไพ่
การเล่นแบล็กแจ็กต้องรอจังหวะและโอกาส ซึ่งถือว่าสำคัญมาก การจั่วไพ่หรือหยุดไพ่เป็นตัวที่จะตัดสินแพ้ชนะเลยก็ว่าได้ นักพนันต้องรู้ว่าไพ่ที่ดีที่สุดคือกี่แต้มและไพ่ที่แย่ที่สุดคือกี่แต้ม การจั่วไพ่เพิ่มเยอะ ๆ เพราะย่ามใจว่ายิ่งมีไพ่ในมือเยอะก็จะยิ่งมีตัวเลือกที่มากขึ้น จนสุดท้ายก็ไม่สามารถจบเกมส์ได้และพลาดโอกาสที่จะได้กำไรจากเกมส์นี้ ดังนั้น หากมีไพ่ในมือใกล้เคียง 21 แต้มแล้ว ก็ควรหยุดไพ่และรอจังหวะเพื่อคว้าชัยชนะ
หยิบกลยุทธ์ต่าง ๆ ในการเดิมพันมาใช้อย่างเหมาะสม
การหยิบสูตรหรือเทคนิคการเล่นไพ่แบล็กแจ็กที่มีอยู่มากมายนั้น ควรหยิบมาใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละเกมส์ หากเปิดไพ่ออกมาแล้วเป็นไพ่แบบนี้จะต้องเลือกใช้กลยุทธิ์แบบใด หรือใช้เทคนิคไหนเพื่อที่จะชนะ ซึ่งถ้าเลือกใช้ให้ถูกกับสถานการณ์โอกาสที่จะชนะและได้กำไรจากการเล่นเกมส์นี้ก็มีเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว
ไม่หมกมุ่นกับการใช้กลยุทธ์และลองเล่นแบบไม่เครียด
อาจจะดูขัดกับข้อก่อนหน้านี้ แต่ถ้าหากว่าผู้เล่นใจจดใจจ่อกับการเลือกใช้เทคนิคในการเล่นมากเกินไป ก็อาจจะทำให้เสียสมาธิจนเกิดความผิดพลาดในการตัดสินใจ จนสิ่งที่วางแผนไว้พังไม่เป็นท่าได้ ดังนั้น ผู้เล่นควรทำใจให้สบาย ไม่เครียด ไม่หมกมุ่นอยู่กับเทคนิคต่าง ๆ มากเกินไป หากเครียดก็พักการเล่นไปสักระยะหนึ่งให้ผ่อนคลายเสียก่อนค่อยกลับมาเล่นก็ยังไม่สาย
ไม่ควรซื้อประกันเกมส์
ผู้เล่นหลายคนเชื่อว่าเมื่อเล่นแบล็กแจ็กการซื้อประกันเกมส์เป็นสิ่งที่ควรทำ แต่ในความเป็นจริงแล้วการเล่นแบล็กแจ็กมีอัตราการต่อรองที่ค่อนข้างเสี่ยง หากลงเดิมพันในอัตรา 2 ต่อ 1 แล้วซื้อประกันเกมส์จะทำให้ผู้เล่นมีความเสี่ยงในการเสียเงินมากขึ้น แทนที่จะช่วยเซฟเงินแต่กลายเป็นว่าเงินที่ได้ลดลงแทน ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน