วิธีแทงไฮโลออนไลน์ ที่มือใหม่จำเป็นต้องรู้
การแทงไฮโลสำหรับนักพนันมือใหม่แล้วดูเหมือนว่าจะแทงง่าย แต่ก็มีนักพนันจำนวนไม่น้อยที่เล่นแทงไฮโลแล้วมือเปล่ากลับบ้าน อาจจะเป็นเพราะไม่รู้กติกาการเล่นหรือยังไม่เข้าใจรูปแบบการแทงแบบถูกวิธี วันนี้ทาง Sexy365 จะพาไปทำความรู้จักและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการแทงไฮโลให้มากขึ้น เพื่อที่นักพนันทุกคนจะสามารถพัฒนาฝีมือให้ดียิ่งขึ้นจนก้าวขึ้นไปเป็นมืออาชีพค่ะ
กติกาพื้นฐานในการแทงไฮโลออนไลน์
ไม่ว่าจะเล่นพนันอะไร การทำความเข้าใจกติกาการเล่นเป็นสิ่งแรกที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะถ้าหากไม่เข้าใจกติกาการเล่น นักพนันจะไม่สามารถเล่นได้อย่างถูกต้องแน่นอน ซึ่งกติกาพื้นฐานของการแทงไฮโลก็มีดังนี้ค่ะ
1. การแทงไฮโลจะมีอุปกรณ์การเล่นหลัก ๆ เลย คือ ลูกเต๋าจำนวน 3 ลูก และอุปกรณ์ที่ใช้ในการเขย่าคือ จานและฝาครอบแบบโปร่งแสง
2. การวางเดิมพันจะมีระยะเวลากำหนดให้ผู้เล่นวางเดิมพัน
3. หลังจากหมดเวลาการวางเดิมพัน ดีลเลอร์จะเขย่าไฮโล
4. เมื่อเปิดลูกเต๋าออกมาจะจ่ายเงินรางวัลให้กับผู้เล่นที่แทงถูกและเริ่มการเล่นรอบใหม่
5. หากลูกเต๋าเกยกันหรือไม่สามารถระบุหน้าแต้มได้ จะถือว่ารอบนั้นเป็นโมฆะและเริ่มเล่นใหม่
รูปแบบการแทงไฮโลและอัตราผลตอบแทน
การแทงไฮโลจะมีรูปแบบการแทงอยู่ 8 รูปแบบ แต่ละแบบกจะมีอัตราการจ่ายผลตอบแทนที่แตกต่างกัน
1. การแทงเต็ง การแทงไฮโลแบบแทงเต็งเป็นการทายแบบระบุตัวเลขเฉพาะเจาะจง คือทายว่าเลข 1 – 6 จะออกเลขไหน หากแทงถูก 1 ลูก อัตราการจ่ายเงินเป็น 1 : 1 หากทายถูก 2 ลูก อัตราการจ่ายเงินจะเป็น 1 : 2 และหากทั้ง 3 ลูก ออกมาเป็นเลขที่ผู้เล่นแทงทั้งหมด อัตราการจ่ายเงินก็จะเป็น 1 : 3
2. การแทงโต๊ด เป็นการทายตัวเลข 2 ตัว ถ้าเปิดหน้าลูกเต๋าออกมาแล้วเป็นตัวเลขที่ผู้เล่นแทงไว้ทั้ง 2 เลข อัตราการจ่ายจะอยู่ที่ 1 : 5
3. การแทงสูง – ต่ำ การแทงไฮโลแบบแทงสูง – ต่ำ เป็นการทายว่าแต้มรวมของลูกเต๋าทั้ง 3 ลูก จะออกมาเป็นแต้มสูงหรือต่ำ โดยแต้มสูงคือ 11 – 18 ส่วนแต้มต่ำคือ 3 – 10 แต้ม
4. การแทงคู่ – คี่ เป็นการทายว่าแต้มรวมของลูกเต๋าทั้ง 3 ลูก จะออกมาเป็นเลขคู่หรือเลขคี่
5. การแทงเบิ้ล เป็นการทายว่าหน้าลูกเต๋าที่ออกมา 1 ใน 2 ลูกจะเป็นเลขเบิ้ลอะไร เช่น แทงเบิ้ล 5 ถ้าลูกเต๋าออกเลข 5 ทั้ง 2 ลูก ก็ถือว่าชนะ อัตราการจ่ายเงินจะอยู่ที่ 1 : 8
6. การแทงตอง เป็นการทายว่าลูกเต๋าทั้ง 3 ลูก จะออกมาเป็นเลขอะไร โดยการแทงไฮโลแบบแทงตองจะได้กำไรที่สูงมาก อัตราการจ่ายจะมากถึง 1 : 150 เลยทีเดียว
7. การแทงตองรวม จะต่างจากการแทงตองแบบปกติเล็กน้อยคือจะเป็นการแทงแบบหว่านแห โดยทั้ง 3 ลูกจะออกเป็นเลขไหนก็ได้ ขอแค่เป็นเลขเดียวกันทั้งหมด ซึ่งอัตราการจ่ายเงินคือ 1 : 24 ก็ถือว่าจ่ายเยอะพอประมาณ
8. การแทงแต้มรวม การแทงไฮโลแต้มรวม อัตราการจ่ายผลตอบแทนจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับแต้มรวม คือ
- แต้มรวม 9, 10, 11, 12 อัตราการจ่ายคือ 1 : 6
- แต้มรวม 8, 13 อัตราการจ่ายคือ 1 : 8
- แต้มรวม 7, 14 อัตราการจ่ายคือ 1 : 12
- แต้มรวม 6, 15 อัตราการจ่ายคือ 1 : 14
- แต้มรวม 5, 16 อัตราการจ่ายคือ 1 : 18
- แต้มรวม 4, 17 อัตราการจ่ายคือ 1 : 50
มือใหม่เลือกแทงไฮโลยังไงดี ?
การแทงไฮโลให้ชนะ ผู้เล่นต้องเข้าใจถึงความเสี่ยงของการแทงแต่ละรูปแบบ โดยความเสี่ยงของแต่ละระดับก็จะมีการเล่นที่ต่างกันไป ซึ่งความเสี่ยงในการแทงไฮโลจะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ ระดับความเสี่ยงต่ำ, ระดับความเสี่ยงปานกลาง และระดับความเสี่ยงสูง
ระดับความเสี่ยงต่ำ
การแทงไฮโลในระดับความเสี่ยงต่ำจะสังเกตได้จากอัตราการจ่ายผลตอบแทน ยิ่งมีอัตราการจ่ายน้อย ความเสี่ยงก็ยิ่งต่ำ และผู้เล่นก็จะมีโอกาสในการแทงไฮโลชนะนั่นเอง โดยการแทงไฮโลในระดับความเสี่ยงต่ำจะเป็นการแทงแบบ สูง – ต่ำ, คู่ – คี่ หรือการแทงโต๊ด แต่การแทงโต๊ดจะมีความแตกต่างออกไปเล็กน้อยคือ มีอัตราการจ่ายเงินอยู่ที่ 1 : 5 หมายความว่า หากผู้เล่นแทงถูกก็จะได้กำไร 5 เท่า ซึ่งการแทงไฮโลในลักษณะนี้จะต้องแบ่งเงินทุนการแทงออกเป็นหน่วย โดยแบ่งเล่นแค่ 10 หน่วย และวางเดิมพันตาละ 1 หน่วย ก็คือจะเล่นทั้งหมดแค่ 10 ตาเท่านั้น โดยจะต้องชนะให้ได้ 2 ตา แล้วเลิกเล่นทันที ไม่จำเป็นต้องเล่นให้ครบ 10 ตา เพราะเพียงแค่ 2 ตา ก็ได้กำไรแล้ว การเล่นให้ครบ 10 ตาจะทำให้เสียเงินทุนไปเปล่า ๆ
ระดับความเสี่ยงปานกลาง
การแทงไฮโลในระดับความเสี่ยงปานกลาง จะดูจากรูปแบบการแทงที่มีอัตราการจ่ายพอประมาณ เหมาะกับคนที่ไม่ชอบกำไรน้อยแบบการแทงในระดับความเสี่ยงต่ำ แต่ก็ไม่อยากจะเสี่ยงมากเกินไป การแทงไฮโลในระดับความเสี่ยงปานกลางมีอยู่ 2 แบบ คือ
- แทงเต็งคู่ 1, 5 และ 6 ตัวละ 2 หน่วย แล้วแทงแต้มรวม 9 อีก 3 หน่วย
- แทงเต็งคู่ 1, 2 และ 6 ตัวละ 2 หน่วย แล้วแทงแต้มรวม 12 อีก 3 หน่วย
การแทงไฮโลในรูปแบบนี้จะเป็นการแทงพร้อมกัน 4 จุด เพื่อให้การแทงครอบคลุมมากที่สุด ซึ่งจะมีโอกาสชนะถึง 25% ทำให้เหมาะกับผู้เล่นที่ไม่ชอบใช้เวลานานในการกินกำไร แต่ก็ไม่อยากแทงในรูปแบบที่มีความเสี่ยงมากเกินไป ในส่วนของผลตอบแทนหรือกำไรที่ผู้เล่นจะได้นั้น คำนวณคร่าว ๆ จากการแทงจะได้ดังนี้
- ถ้าแทงถูกแต้มรวม 9 หรือ 12 จะได้กำไร 18 หน่วย หักแทงเสียไป 6 หน่วย ก็จะเหลือกำไรอยู่ 12 หน่วย จากทุน 9 หน่วย สรุปก็คือ ผู้เล่นจะได้กำไร 1.33 เท่า
- ถ้าชนะเต็งคู่ จะได้กำไร 20 หน่วย หักแทงเสียออก 7 หน่วย จะเหลือกำไรอยู่ 13 หน่วย ก็ถือว่ามาก แต่ผู้เล่นต้องเลือกโต๊ะที่จ่ายเต็งคู่ 10 เท่า ถึงจะเรียกว่าคุ้ม ถ้าจ่ายน้อยกว่านั้นจะไม่น่าเล่นเท่าไหร่
ระดับความเสี่ยงสูง
การแทงไฮโลในระดับความเสี่ยงสูง จะเหมาะกับผู้เล่นที่เน้นการทำกำไรในระยะสั้น เพราะมีอัตราการจ่ายเงินที่มาก แต่ก็มีความสี่ยงสูงเช่นกัน วิธีการคือจะเลือกแทงจุดที่ให้กำไรสูง โดยการเลือกแทง 3 จุด พร้อมกันและไม่เน้นความครอบคลุม แต่เจาะจงไปที่ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง เป้าหมายการแทงไฮโลแบบนี้คือการแทงถูก 2 จุดพร้อมกัน จะทำให้ได้กำไรเยอะมาก ซึ่งเลือกแทงได้ 2 แบบ คือ
- แทงหนักซ้าย คือเริ่มแทงแต้มรวม 8 จำนวน 3 หน่วย แล้วแทงเต็งคู่ 1, 3 ตัวละ 2 หน่วย จากนั้นแทงโต๊ด 2, 3 ตัวละ 2 หน่วย รวมใช้ทุนไปทั้งหมด 11 หน่วย
- แทงหนักขวา คือเริ่มแทงแต้มรวม 13 จำนวน 3 หน่วย แล้วแทงเต็งคู่ 4, 6 ตัวละ 2 หน่วย จากนั้นแทงโต๊ด 4, 5 อีก ตัวละ 2 หน่วย รวมใช้ทุนในการแทงทั้งหมด 11 หน่วยเช่นกัน
อัตราการได้กำไรจากการแทงทั้ง 2 แบบ ก็จะมีความแตกต่างกันไป คือ
- ชนะแต้มรวม จะได้เงิน 18 หน่วย หักทุนออกไป 11 หน่วย เหลือกำไร 7 หน่วย
- ชนะเต็งคู่ จะได้เงิน 20 หน่วย หักทุนออกไป 11 หน่วย เหลือกำไร 8 หน่วย
- ชนะโค๊ด จะได้เงิน 10 หน่วย หักทุน 11 หน่วย ขาดทุน 1 หน่วย
ฉะนั้น การเล่นในรูปแบบนี้ ผู้เล่นจะต้องแทงถูก 2 จุดขึ้นไป ถึงจะได้กำไรกลับมาแบบคุ้ม ๆ ซึ่งก็ไม่ง่ายเช่นกัน ยิ่งถ้าแทงถูก 3 จุด พร้อมกันยิ่งยากขึ้นไปอีก แต่ถ้าหากแทงได้ถึงขนาดนั้นกำไรที่ได้กลับมาก็สูงถึง 16 หน่วยเลยทีเดียว
การแทงไฮโลแบบมืออาชีพที่ Sexy365 นำมาฝากนี้ หวังว่าจะช่วยให้นักพนันหลาย ๆ คน สามารถนำกติกาและวิธีการแทงไฮโลไปเล่นกันอย่างถูกต้องกันมากขึ้น และกวาดกำไรบนโต๊ะกลับบ้านกันได้ทุกคนนะคะ