น้ำเต้าปูปลา เล่นอย่างไรให้เงินเข้ากระเป๋า
น้ำเต้าปูปลา เป็นเกมส์ที่ต่อยอดมาจากเกมส์ไฮโล อุปกรณ์ในการเล่นก็ใช้ลูกเต๋าเหมือนกัน เพียงแต่รูปหรือสัญลักษณ์จะมีความแตกต่างกันและน้ำเต้าปูปลามีมากกว่า โดยไฮโลจะเป็นตัวเลขแต่น้ำเต้าปูปลาจะเป็นสัญลักษณ์รูปต่าง ๆ ถ้าเป็นน้ำเต้าปูปลาแบบไทยก็จะมี น้ำเต้า ปู ปลา เสือ ไก่ และกุ้ง ซึ่งการเล่นน้ำเต้าปูปลาเป็นที่ชื่นชอบในหมู่นักพนันไทยกันมาก เนื่องจากเป็นเกมส์ที่สนุกสนาน มีวิธีการเล่นที่ง่าย ได้เงินเร็ว และในคราวนี้จะพามาทำความรู้จักวิธีการเล่นน้ำเต้าปูปลาว่ามีวิธีการเล่นและช่วยทำเงินได้อย่างไร
ลักษณะการเล่นเกมส์น้ำเต้าปูปลา
น้ำเต้าปูปลาจะใช้ลูกเต๋าในการเล่น 3 ลูก แต่ละลูกจะมีสัญลักษณ์หน้าลูกเต๋าเป็นรูปต่าง ๆ ในที่นี้ขออิงแบบไทย ก็คือจะมี น้ำเต้า ปู ปลา เสือ ไก่ และกุ้ง โดยแต่ละด้านแทนด้วยสีแดง สีน้ำเงิน และสีเขียว หรืออาจจะแทนด้วยตัวเลข 1 – 6 เหมือนลูกเต๋าปกติก็ได้ เพื่อให้มีรูปแบบการเดิมพันที่หลากหลาย ซึ่งจะมีวิธีการนับแต้ม คือ
- ปลาหรือสีแดง จะมีค่า 1 แต้ม
- กุ้งหรือสีเขียว จะมีค่า 2 แต้ม
- น้ำเต้าหรือสีน้ำเงิน จะมีค่า 3 แต้ม
- เสือหรือสีน้ำเงิน จะมีค่า 4 แต้ม
- ปูหรือสีเขียว จะมีค่า 5 แต้ม
- ไก่หรือสีแดง จะมีค่า 6 แต้ม
วิธีการเล่นน้ำเต้าปูปลา
- ในการเริ่มเกมส์เจ้ามือหรือดีลเลอร์ประจำโต๊ะจะทำหยิบลูกเต๋าทั้ง 3 ลูก วางบนจานที่มีฝาครอบและเขย่า
- ผู้เล่นทำการวางเงินเดิมพันว่าจะแทงอะไร โดยการเล่นน้ำเต้าปูปลาออนไลน์จะมีการจำกัดระยะเวลาในการลงเดิมพัน
- เมื่อครบเวลาการเดิมพันแล้ว เจ้ามือหรือดีลเลอร์ประจำโต๊ะก็จะเปิดลูกเต๋าทั้ง 3 ลูกออกมาว่ามีอะไรบ้าง
- หากลูกเต๋าทั้ง 3 ลูก หงายหน้าไหนออกมา ก็คือผลของตานั้น ผู้เล่นคนไหนที่แทงถูกก็จะได้เงินรางวัล แต่ถ้าแทงผิดเจ้ามือก็จะได้เงินเดิมพันไป
ข้อดีของเกมส์น้ำเต้าปูปลา
ข้อดีที่โดดเด่นของน้ำเต้าปูปลา คือ เป็นเกมส์ที่มีวิธีการเล่นง่าย ไม่ต้องนับแต้มเหมือนการเล่นเกมส์ไพ่ ดูแค่เพียงสัญลักษณ์ที่เป็นรูปภาพเท่านั้นในการเดิมพัน ซึ่งจะทำให้ใช้เวลาในการลงเดิมพันแบบรวดเร็ว และการเล่นน้ำเต้าปูปลาก็มีการจ่ายเงินรางวัลในอัตราการที่สูง โดยอัตราสูงสุดที่จ่ายคือเป็นร้อยเท่า ซึ่งจะเกิดขึ้นในกรณีที่ลูกเต๋าออกหน้าเดียวกันทั้ง 3 ลูก หรือมีการทายสี ได้แก่ สีแดง สีน้ำเงิน และสีเขียว เพราะฉะนั้นการเดิมพันน้ำเต้าปูปลาจะไม่ได้มีรูปแบบการเดิมพันเหมือนกับไฮโล ส่วนขั้นต่ำในการวางเดิมพันเมื่อเล่นน้ำเต้าปูปลาออนไลน์เพียงแค่ 10 บาทเท่านั้น ถือว่าเป็นการใช้ทุนทีละน้อย ๆ เหมาะกับผู้เล่นที่ไม่ได้มีทุนในการเล่นมากและไม่ต้องการลงทุนสูง
เคล็ดลับการเล่นเกมส์น้ำเต้าปูปลา
การแทงสี
กระดานวางเดิมพันของน้ำเต้าปูปลา จะเป็นรูปสัญลักษณ์และสี คือ ปลากับไก่จะเป็นสีแดง, กุ้งกับปูจะเป็นสีเขียว และ น้ำเต้ากับเสือจะเป็นสีน้ำเงิน ถ้าหากผู้เล่นเลือกแทงสี อัตราการจ่ายผลตอบแทนจะอยู่ที่ 1 : 1 ซึ่งถ้าออก 2 ลูก ก็จะได้รับผลตอบแทน 2 เท่า การวางเดิมพันแบบการแทงสีมีโอกาสน้อยมากที่ผู้เล่นจะเสีย ซึ่งอาจจะต้องใช้หลักการความน่าจะเป็นและทักษะการคำนวณเข้ามาช่วยสักหน่อย เช่น
- ถ้าหากผู้เล่นเลือกแทง 2 สี เช่น สีแดงกับสีเขียว ตัวละ 50 บาท ถ้าลูกเต๋าหนึ่งลูกออกมาเป็นสีแดงหรือสีเขียวก็ยังเท่าทุน ซึ่งในกรณีนี้ผู้เล่นจะเสียเมื่อมีสีน้ำเงินออกทั้ง 2 ลูกเท่านั้น แต่ก็มีความเป็นไปได้น้อยมากเพียงแค่ 12% ส่วนโอกาสเสมอมีมากถึง 65% และโอกาสชนะมี 23%
การแทงลูกติด
สูตรการแทงลูกติดในน้ำเต้าปูปลาจะเป็นการใช้สถิติจากการเล่นในรอบที่ผ่านมาเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์และเลือกแทง ซึ่งมีความคล้ายกับสูตรเค้าไพ่เสือมังกรในเกมส์เสือมังกรหรือเกมส์บาคาร่า นั่นก็คือ การใช้สถิติในแต่ละเกมส์ที่ผ่านมาดูว่ามีอะไรที่ออกบ่อย หรือออกซ้ำกันอยู่เรื่อย ๆ บ้าง ก็ให้ผู้เล่นเลือกแทงอันนั้น เช่น รอบนี้เปิดหน้าลูกเต๋าออกมาแล้วเป็นไก่ 2 ลูก และเมื่อผู้เล่นดูสถิติที่ผ่านมาก็พบว่าไก่ออกบ่อยและออกซ้ำอยู่เรื่อย ๆ จึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะออกไก่ ดังนั้นตาต่อไปผู้เล่นก็เลือกแทงไก่ เป็นต้น
การแทงแบบเต็ง
การแทงแบบเต็ง เป็นการแทงเพียงตัวใดตัวหนึ่งว่าสัญลักษณ์ที่อยู่บนหน้าลูกเต๋าทั้ง 3 ลูกจะออกมาเป็นอะไรบ้าง ถ้าหากทายถูกก็จะได้ผลตอบแทน
- หากผู้เล่นทายถูกเพียงลูกเดียว อัตราผลตอบแทนจะอยู่ที่ 1 : 1
- หากผู้เล่นทายถูก 2 ลูก อัตราผลตอบแทนจะอยู่ที่ 1 : 2
- หากผู้เล่นทายถูกทั้ง 3 ลูก อัตราผลตอบแทนจะอยู่ที่ 1 : 3
โดยการแทงแบบนี้ ผู้เล่นควรวางแผนเงินทุนไว้อย่างชัดเจน และคำนวณผลกำไรที่ควรจะได้ทุกครั้งก่อนการลงเล่น เพื่อบริหารเงินทุนว่าควรเป็นไปในรูปแบบหรือทิศทางใด ส่งผลให้บรรลุผลสำเร็จและทำกำไรให้แก่ผู้เล่น
การแทงแต้ม
การแทงแต้มจะเป็นการแทงรวมของลูกเต๋าทั้ง 3 ลูก ซึ่งมีตั้งแต่ 4 – 17 แต้ม โดยรูปสัญลักษณ์ 6 รูป จะแทนสีและแต้ม ดังนี้
- ปลาหรือสีแดง จะมีค่า 1 แต้ม
- กุ้งหรือสีเขียว จะมีค่า 2 แต้ม
- น้ำเต้าหรือสีน้ำเงิน จะมีค่า 3 แต้ม
- เสือหรือสีน้ำเงิน จะมีค่า 4 แต้ม
- ปูหรือสีเขียว จะมีค่า 5 แต้ม
- ไก่หรือสีแดง จะมีค่า 6 แต้ม
การแทงสูงต่ำ
การแทงสูงต่ำในการเล่นน้ำเต้าปูปลา ก็เหมือนกับการแทงสูงต่ำในไฮโล คือจะเป็นการทายว่าผลคะแนนรวมของลูกเต๋าทั้งสามหน้าจะมีคะแนนสูงหรือต่ำ
- การแทงสูง คือ แต้มของลูกเต๋าทั้ง 3 ลูก รวมกันได้ 11 – 17 เช่น เสือ ปู ไก่ (15 แต้ม)
- การแทงต่ำ คือ แต้มของลูกเต๋าทั้ง 3 ลูก รวมกันได้ 4 – 10 เช่น เสือ ปลา กุ้ง (7 แต้ม)
ทั้งสองแบบถ้าผลออกมาเป็นตอง เจ้ามือจะชนะและได้เงินเดิมพันไป
การแทงตอง
การแทงตองจะเป็นการทายว่าสัญลักษณ์ของลูกเต๋าทั้ง 3 ลูก จะออกมาเหมือนกันทั้งหมด จะเป็นการแทงเฉพาะเจาะจงไปที่สัญลักษณ์ใดสัญลักษณ์หนึ่ง เช่น แทงตองเสือ ถ้าลูกเต๋าทั้ง 3 ลูกออกมาเป็นเสือ ผู้เล่นก็จะชนะไป
การแทงชุด
การแทงชุด จะเป็นการแทงแบบเลือกจับคู่หรือกลุ่มในการแทง เช่น เสือ – น้ำเต้า, เสือ – ปลา, กุ้ง – น้ำเต้า, ไก่ – เสือ เป็นต้น ถ้าแทงถูกก็จะได้เงินรางวัล 3 เท่า
เทคนิคการเล่นน้ำเต้าปูปลาทั้งหมดนี้ เป็นเทคนิคหลัก ๆ ที่จำเป็นและครอบคลุมสำหรับการเล่นน้ำเต้าปูปลาแล้ว โดยการเล่นน้ำเต้าปูปลา แนะนำว่าไม่ควรลงเงินเดิมพันเริ่มต้นเป็นจำนวนมาก ให้ค่อย ๆ ลงเป็นเงินจำนวนน้อย ๆ ก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มเงินเดิมพันไปเรื่อย ๆ ถ้าหากตาไหนเสียเงินเดิมพัน ก็ค่อย ๆ ลดจำนวนเงินในการเดิมพันลงมาเช่นกัน เนื่องจากการเล่นน้ำเต้าปูปลาให้สำเร็จและได้กำไรควรจะใจเย็น ให้เก็บไปทีละเล็กทีละน้อย อย่าโลภและอย่าใจร้อน เพราะนั่นอาจจะทำให้ผู้เล่นเสียเงินทุนไปทั้งหมดและไม่ได้กำไรกลับคืนมาเลยก็ได้
หลักการเล่นเกมส์น้ำเต้าปูปลา
การเล่นน้ำเต้าปูปลาจะใช้ลูกเต๋าจำนวน 3 ลูก มีสัญลักษณ์รูปภาพบนหน้าลูกเต๋าแต่ละด้าน โดยแต่ละภาพยังแทนค่าด้วยสีแดง สีเขียว และสีน้ำเงิน หรือแทนค่าด้วยแต้มตั้งแต่ 1-6 เพื่อให้มีวิธีการเดิมพันหลายแบบ เช่น แทงตัวเลข แทงสูงต่ำและแทงสีคล้ายกับการพนันไฮโล ดังนี้
- ปลาหรือสีแดง = 1 แต้ม
- กุ้งหรือสีเขียว = 2 แต้ม
- น้ำเต้าหรือสีน้ำเงิน = 3 แต้ม
- เสือหรือสีน้ำเงิน = 4 แต้ม
- ปูหรือสีเขียว = 5 แต้ม
- ไก่หรือสีแดง = 6 แต้ม
วิธีการเล่นน้ำเต้าปูปลา
- วิธีเล่นเกมส์น้ำเต้าปูปลา เริ่มแรกคือ ดีลเลอร์จะจัดการรับเดิมพันและทอยหรือเขย่าลูกเต๋าทั้งหมด
- โดยเจ้ามือจะหยิบลูกเต๋าวางบนจานรอง โดยอุปกรณ์ที่ใช้จะเป็นลูกเต๋ารูปสัตว์และสัญลักษณ์ต่าง ๆ
- ผู้เล่นวางเดิมพันก่อนเลือกทายผลว่า หน้าลูกเต๋าจะออกมาในลักษณะใด
- เมื่อวางเดิมพันน้ำเต้าปูปลาทั้งหมดแล้ว เจ้ามือตักลูกเต๋าจากจานแล้วทอยไปบนแผ่นกระดาษเกมส์
- ในบางคาสิโนจะใช้วิธีคว่ำชามบนจานรองแล้วเขย่าลูกเต๋าแล้วเปิดออก แสดงให้เห็นว่าสัญลักษณ์ใดหงายอยู่บ้าง นั่นคือผลลัพธ์ของเกมส์รอบนั้น
- หากการปรากฏผลลัพธ์ออกมาตรงกับการเดิมพัน ผู้เล่นก็รับเงินรางวัลจากเกมส์น้ำเต้าปูปลาไป แต่ถ้าผลลัพธ์ไม่ตรงกัน ผู้เล่นจะเสียเงินเดิมพันให้แก่เจ้ามือและบ่อนคาสิโน
ข้อดีของเกมส์น้ำเต้าปูปลา
เกมส์น้ำเต้าปูปลานี้เป็นเกมส์ที่เล่นง่ายเพราะผู้เล่นไม่จำเป็นต้องนับแต้ม โดยเพียงแค่สังเกตุดูที่รูปภาพอย่างเดียว ข้อดีของเกมส์น้ำเต้าปูปลานี้คือ การที่มีอัตราจ่ายสูงสุดร้อยกว่าเท่า ในกรณีวางเดิมพันว่าจะมีภาพบนหน้าลูกเต๋าซ้ำกันทั้ง 3 ลูก มีการทายสีได้แก่ สีน้ำเงิน แดง และเขียว ซึ่งการเล่นแบบนี้ไม่มีในการเดิมพันไฮโลอย่างแน่นอน ทำให้มีการเล่นหลากหลายมากกว่า จึงทำให้ผู้เล่นไม่รู้สึกเบื่อและสามารถเล่นต่อไปได้เรื่อย ๆ การวางเดิมพันยังเป็นการเดิมพันต่ำด้วยขั้นต่ำตั้งแต่ 10 บาท ซึ่งผู้เล่นใหม่ไม่จำเป็นต้องลงทุนสูง โดยการเล่นนี้มีหลายโต๊ะเดิมพันให้เลือกจาก SEXY365 อีกทั้งยังได้รับความนิยมจากผู้เล่นทั่วทุกมุมโลกจนมีเกือบทุกคาสิโนและในตอนนี้ก็สามารถเล่นได้ในระบบออนไลน์ แต่อย่างไรก็ตามการเล่นน้ำเต้าปูปลานี้ก็ยังมีเคล็ดลับที่ผู้เล่นควรทำหรือไม่ควรทำอยู่ติดตามในหัวข้อถัดไปนะคะ
เคล็ดลับการเล่นเกมส์น้ำเต้าปูปลา
การแทงสี
ในเกมส์น้ำเต้าปูปลาจะเป็นรูปต่าง ๆ ออกสีดังนี้ ปลาและไก่ ได้แก่สีแดง, กุ้งและปูได้แก่สีเขียว, น้ำเต้าและเสือได้แก่สีน้ำเงิน เมื่อผู้เล่นวางเดิมพันเลือกสี มีอัตราการจ่าย 1 ต่อ 1 แต่ถ้าออก 2 ลูกก็จะได้ 2 เท่า เพราะฉะนั้น ให้ผู้เล่นวางเดิมพันโดยการเลือก 2 สี เช่นเลือกสีแดงและน้ำเงินตัวละ 100 บาท หากว่าออกสีแดงหรือน้ำเงินเพียงลูกเดียวเท่ากับว่าผู้เล่นยังเท่าทุน ผู้เล่นจะเสียในกรณีที่ออกสีเขียวทั้ง 2 ลูกเท่านั้น ซึ่งเป็นไปได้ยากมีโอกาสเพียง 12% เท่านั้นที่ผู้เล่นจะเสียเงิน และมีโอกาสเสมอ 65% และมีโอกาสชนะ 23% เพราะฉะนั้นแล้วการวางเดิมพันแบบเลือกสี จะทำให้ผู้เล่นแทบไม่มีโอกาสเสียเลย การวางเดิมพันลักษณะแบบนี้เหมือนการสังเกตุถึงความน่าจะเป็นของการเล่น ที่ผู้เล่นจะต้องลองคำนวณก่อนการเดิมพันซึ่งในเทคนิคนี้ผู้เล่นอาจจะต้องใช้ทักษะการคำนวณสักเล็กน้อย
การเลือกลูกติด
สูตรการแทงแบบนี้จะมีลักษณะการวางเดิมพันคล้ายสูตรการแทงตามเค้าไพ่มังกรที่ปรากฏในเกมบาคาร่า ซึ่งเป็นเกมส์ที่นิยมอย่างมากในหมู่ผู้เล่นชาวไทยอีกเช่นกัน นั่นคือการที่ให้ผู้เล่นต้องวางเดิมพันซ้ำกันไปเรื่อย ๆ เช่นหากว่าในตรอบการเดิมพันนี้มีปลาเปิดหน้ามา 2 ลูก ในรอบการเดิมพันต่อไปก็มีโอกาสที่จะออกปลาอีกเช่นกัน หรือเราสามารถคำนวณความน่าจะเป็นได้จากสถิติ โดยดูว่ารูปอะไรออกบ่อยที่สุด ก็ให้ผู้เล่นวางเดิมพันรูปนั้นไปเรื่อย ๆ โดยเทคนิคการออกลักษณะนี้เหมือนเป็นการเก็บสถิติของการเล่นแต่ละครั้งเพื่อมาวิเคาะห์ในการเล่นครั้งต่อไปนั่นเอง
การแทงแบบเต็ง
เป็นการแทงรูปที่อยู่บนหน้าลูกเต๋าทั้ง 3 ลุกว่าจะออกรูปแบบไหน จะเป็นเลขเดียว โดยเขตตัวเลขบนลูกเต๋า 1-6 ที่แทงไปนั้นออกเพียงตัวเดียว เป็นการทายรูปภาพบนลูกเต๋าทั้ง 3 ลูกว่าจะออกมาเป็นรูปอะไรบ้าง หากทายถูกก็จะได้รับผลตอบแทนตามเงื่อนไขได้แก่ หากรูปภาพที่เราทายถูกเพียงรูปเดียวผลตอบแทนจะเท่ากับ 1:1 หากทายถูก 2 รูปผลตอบแทนคือ 1:2 สุดท้ายหากรูปภาพที่ถ่ายนั้นถูกหมด 3 รูปผลตอบแทนคือ 1:3 เมื่อเลือกเล่นเดิมพันนี้จะมีวิธีการเล่นที่จำเป็นต้องกำหนดรูปแบบและทิศทางของการเดิมพันทั้งเงินทุน และผลกำไรให้ชัดเจนทุกครั้ง เพื่อความสำเร็จและบริหารได้ง่ายยิ่งขึ้น
การแทงแต้ม
การแทงรวมลูกเต๋าทั้งหมด 3 ลูก ที่มีตั้งแต่ 4-17 แต้ม รูปสัตว์ 6 รูปแทนแต้มและสีได้แก่
- ปลาหรือสีแดง = 1 แต้ม
- กุ้งหรือสีเขียว = 2 แต้ม
- น้ำเต้าหรือสีน้ำเงิน = 3 แต้ม
- เสือหรือสีน้ำเงิน = 4 แต้ม
- ปูหรือสีเขียว = 5 แต้ม
- ไก่หรือสีแดง = 6 แต้ม
การแทงสูงต่ำ
เป็นการทายผลคะแนนรวมของลูกเต๋าว่าจะออกเป็นคะแนนสูงหรือคะแนนต่ำ การแทงสูงจำนวนแต้มรวมกันเป็น 11-17 ( กรณีออกตองเจ้ามือชนะ ) เช่นผลออก ไก่ เสือ ปู การแทงต่ำ จำนวนแต้มรวมกันเป็น 4-10 ( กรณีออกตองเจ้ามือชนะ ) เช่นผลออกปลากุ้งเสือ
การแทงตอง
เป็นการทายรูปภาพของลูกเต๋าว่าจะออกมาเหมือนกันทั้ง 3 ลูกหรือไม่ กล่าวคือการแทงว่าลูกเต๋าจะออกเหมือนกันทั้ง 3 ลูก เลือกเจาะจงตอง ( เช่น ไก่สามตัว ) จะต้องออกเป็นไก่สามตัวที่เลือกเท่านั้น
เทคนิคการเล่นที่ได้กล่าวในข้างต้นนั้นถือว่าเป็นการเล่นน้ำเต้าปูปลาที่คลอบคลุมที่ผู้เล่นสามารถทำตามได้ทั้งหมด นอกจากนั้นแทงเป็นชุด ๆ เช่น ไก่-เสือ-, ปู-กุ้ง, น้ำเต้า-ปลา นั้นก็ยังถือเป็นกำไรกับผู้เล่นอีกด้วยเพราะถ้าสามารถจับชุดดังกล่าวได้ ผู้เล่นจะได้เงินรางวัลเป็นสามเท่าในทันที โดยให้เริ่มแทงด้วยจำนวนไม่มากก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ถ้าหากเสียการเดิมพันเมื่อไหร่ก็ตาม ให้ผู้เล่นลดลงมาค่อย ๆ เริ่มเก็บกันใหม่ ค่อย ๆ เก็บไปทีละน้อยโดยไม่ต้องโลภเพราะถ้าหากเล่นด้วยความกดดันและความโลภที่ต้องการเอาชนะ จะทำให้เป็นการใจร้อนมากเกินไปและอาจจะเสียเป็นจำนวนมหาศาล